เมื่อวานได้มีโอกาสไปบรรยายในงาน Workshop ให้บรรดาผู้เข้าแข่งขัน The Stock Master ที่ทางบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงจัดขึ้นมาในหัวข้อเรื่อง Size Does Matter หรือ Money Management สำหรับนักลงทุน ในวันนี้ก็เลยเอาระบบง่ายๆที่ผมนำไปใช้เป็น Model เพื่อทดสอบถึงผลกระทบจาก Position Size ในด้านต่างๆออกมาคุยกัน นั่นก็คือ Quadruple Moving Average System ครับ
จุดอ่อนของ Moving Average System แบบ 2 เส้น
ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จักระบบ Moving Average Crossover แบบ 2 เส้นกันดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะสังเกตุได้ว่าผมจะไม่ค่อยได้พูดถึงระบบแบบนี้สักเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะความจริงแล้วพวกมันค่อนข้างขาดความเสถียรและมี Drawdown ที่หนักหน่วงด้วยเหตุผลง่ายๆที่ว่า เส้นค่าเฉลี่ยแบบ 2 เส้นนั้นมีลักษณะเป็น Reversal System ซึ่งมีจุดอ่อนตรงที่มันให้สัญญาณในลักษณะที่เป็น Up – Down Trend เท่านั้น แต่ไม่สามารถระบุถึงช่วงเวลาที่ตลาดเป็น Sideway ออกข้างได้ มันจึงไม่มีตัวกรองแนวโน้มแบบ Built-in ในตัว เราจึงไม่สามารถที่จะลดความรุนแรงของ Drawdown ที่เกิดจาก Whipsaw ในช่วง Sideway และ Big Down Trend ลงมาได้สักเท่าไหร่นัก
ปิดจุดอ่อนของ Moving Average System
แนวคิดง่ายๆรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยลด Drawdown ที่เกิดขึ้นในช่วง Sideway หรือ Down Trend ของระบบ Moving Average ที่ผมอยากจะแชร์ในวันนี้คือการแบ่งหน้าที่ของ Moving Average ออกเป็น 2 ลักษณะนั่นก็คือ
- ใช้สำหรับการให้สัญญาณ
- ใช้สำหรับการยืนยันแนวโน้ม
โดยให้ 2 เส้นที่ใช้ Parameter สั้นที่สุดจะเป็นตัวให้สัญญาณซื้อขาย (เมื่อเส้นเขียวเรียงตัวเหนือเส้นน้ำเงิน) และอีก 2 เส้นที่ยาวที่สุดจะเป็นตัว Confirm แนวโน้มในระยะยาวของมันว่ายังอยู่ในขาขึ้นใหญ่หรือไม่ (เมื่อเส้นแดงเรียงตัวเหนือเส้นดำ)
ภาพที่ 1 แสดงให้เห็นถึงจำนวนสัญญาณการซื้อขายยิบย่อยที่ลดลงจากการ Filter แนวโน้มด้วยเส้น Moving Average ระยะยาว
พูดเป็นหลักการง่ายๆก็คือ เกิดสัญญาณซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสี่เส้นเรียงตัวกันลงไปจากค่าน้อยไปหามาก ส่วนสัญญาณขายนั้นเราจะใช้เพียงแค่ 2 เส้นสั้นตัดกันลงมาเป็นตัวให้สัญญาณเท่านั้น (เพราะเราต้องการหนีจาก Sideway และ Downtrend เราจึงไม่ต้องกรองถึงแนวโน้มอีกชั้น)
และนี่ก็คือผลการเติบโตเปรียบเทียบระหว่าง Double MA (MA5,MA25) และ Quadruple MA (MA5, MA25, MA50, MA75)โดยยังไม่ได้ Optimize ค่าที่ดีที่สุดของแต่ละเส้นออกมาครับ (ใช้ค่ามาตรฐานทั่วไปที่คนส่วนใหญ่ชอบใช้)
Double MA | Quadruple MA | |
Profits | 11,403,958 | 175,700,192 |
CAGR | 11.84% | 25.85% |
Max DD. | -66.02% | -33.66% |
%Win | 32.07% | 36.41% |
Payoff Ratio | 2.63x | 3.03x |
ข้อสังเกตุที่น่าสนใจจากระบบการลงทุนแบบ Moving Average
บางคนอาจสงสัยว่าทำไมผมจึงใช้สัญญาณจากการเรียงตัวแทนที่จะเป็นการตัดกันของเส้นสั้นทั้ง 2 เส้นแรก … คำตอบก็คือ การรอให้เกิดการตัดกันของเส้นสั้นคู่แรกนั้นเป็นความพยายามที่ “เรื่องมาก” จนเกินไป เพราะโอกาสที่จะเกิดการตัดกันของ 2 เส้นสั้นในตลาดขาขึ้นใหญ่นั้นค่อนข้างที่จะน้อย ทำให้จำนวนการเทรดลดลงส่งผลให้จำนวนรอบของการทบกำไรลดลงไป
หุ้นที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งนั้น เส้น MA คู่แรกของมันมักที่จะไม่ลงมาตัดกันอีกครั้งในขณะที่เป็นขาขึ้นใหญ่อยู่ นั่นเพราะหุ้นมันแข็งแรงเกินไปที่ MA เส้นสั้นจะถอยกลับลงมาอีกครั้ง ยกเว้นเสียแต่ว่ามันจะโดนเทขายจนเสียศูยน์มาก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว ผลก็คือคุณมักจะได้หุ้นที่มันเสีย Momentum มาแล้วจึงทำให้อัตรา Pay-off ของระบบโดยรวมลดลงนั่นเอง
หวังว่าจะได้ Idea เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับระบบ Moving Average กันไปบ้างนะครับ สำหรับวันนี้ขอจบเท่านี้ก่อนแล้วกัน เหนื่อยมากๆเลยเพราะยุ่งๆทั้งวัน (แถมตื่นแต่เช้าแล้วก็ต้องไปเดินเล่นต่อจนดึก 55) แล้วไว้เจอกันบทความหน้าครับ ^_^