เทคนิคการอ่านโวลุ่มในการเล่นหุ้น Tape Reading by Linda Bradford Rashcke (2)
หลังจากผมหยุดพักไปในช่วงตรุษจีน วันนี้เรามาว่ากันต่อถึงหลักการในการอ่านโวลุ่มจากบิด-ออฟเฟอร์หรือที่เรียกกันว่า Tape Reading กันต่อครับ วันนี้อ่านกันยาวๆไปเลย ถ้ามีความเห็นอย่างไรก็แนะนำเข้ามาได้นะครับ
เทคนิคการอ่านโวลุ่มในการเล่นหุ้น Tape Reading By Linda Bradford Raschke (Part 1)
วันนี้นำเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องมาให้อ่านกันครับ เป็นเรื่องที่หาข้อมูลศึกษาค่อนข้างยากพอสมควรแม้จะเป็นในต่างประเทศก็ตาม ผมพยายามหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ที่ยังมีขายกันอยู่ก็มีเพียงไม่กี่เล่มที่เป็นหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะเท่านั้น นั่นก็คือเรื่องของการอ่านโวลุ่มการซื้อขายจากบิด-ออฟเฟอร์ หรือที่เรียกกันว่า Tape Reading ครับ โดยวันนี้ผมนำมาจากบทความของคุณ Linda Bradford Raschke เจ้าเก่ามาให้อ่านครับ
New high ! จริงหรือหลอกบอกกันอย่างไร ?
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
วันนี้ผมนำ เคล็ดลับการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคเล็กๆน้อยมาเล่าให้ฟังกันนะครับ ซึ่งในวันนี้จะเป็นเรื่องของการดู “ความน่าจะเป็น” ว่าหุ้นที่ผ่านแนวต้านไปนั้น มี “ความน่าจะเป็น” แค่ใหนที่มันจะวิ่งต่อไป ไกลแค่ใหน และอย่างไรครับ! โดยบทความชิ้นนี้ผมนำมาแปลสรุปจากบทความของ Tim Ord นักวิเคราะห์หุ้นชื่อดังของอเมริกานะครับ ซึ่งแนวคิดการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคโดยนำวอลุ่มมาพิจรณาประกอบ ณ จุด Breakout นี้เป็นแนวทางการวิเคราะห์ที่มีรากฐานจาก Richard Wyckoff นักเล่นหุ้นระดับตำนานของ Wallstreet ตั้งแต่ยุคปี 1900 โน่นเลยครับ แต่หลักการที่ดีก็คือหลักการที่ดีครับและยังไม่ล้าสมัยไปผมเลยนำมาให้อ่านกันสักทีนะครับ
Studies in Tape Reading โดย Rollo Tape หนังสือหุ้นเล่มที่ผมนำมาแนะนำอยู่นี้ เป็นหนังสือหุ้นเล่มเล็กๆที่มีมนต์ขลังอย่างมากมาย จำได้ว่าสมัยที่ผมอยากศึกษาการอ่านโวลุ่ม เพื่อจะนำมาใช้เล่นหุ้นนั้นไม่ไช่เรื่องง่ายๆ และผมก็หาอยู่นานครับว่ามีหนังสือหุ้นเล่มใหนเขียนถึงการดูโวลุ่มบ้าง จนผมได้ไปเจอกับเรื่องราวของของ “การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคจากบันทึกการซื้อขายรายวันหรือเรียกสั้นๆว่า Tape Reading” ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ยังไม่ทราบจริงๆว่ามันคืออะไรครับ หาซื้อก็ไม่ได้ out of print ไปแล้ว แต่แล้วก็ด้วยความอยากของผม ก็เลยสั่งพิมพ์มาเลยครับ หึหึ อะไรมันจะลงทุนขนาดนั้นไช่มั้ยครับ แต่ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ และต้องขอบอกว่าเป็นหนังสือหุ้นในดวงใจอีกเล่มหนึ่งหลังจากที่อ่านเสร็จเลยครับ
หลายคนคงจะสงสัยว่าไอ้ Tape reading นี่มันคืออะไรแล้วมันจะเอามาทำอะไรในตลาดหุ้น ? เรื่องมันก็มีอยู่ว่าสมัยก่อนนะครับ ( ก่อนที่เราจะมีตลาดหลักทรัพย์ให้เล่นหุ้นกันในไทยนานพอสมควรครับ ) ช่วงต้นๆยุค 1900 สมัยนั้นตลาดหุ้นที่อเมริกามันก็ยังไม่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้ไช่มั้ยละครับ ทีนี้พวกมะกันเค้าจะทำอย่างไรในการที่จะรับรู้ราคาได้รวดเร็วที่สุด สมัยนั้น ไม่มี Ticker วิ่งๆอย่างสมัยนี้นะครับ ไม่ว่าจะราคาหรือโวลุ่มมัน กด Connect เข้าเวบมาดูเลยไม่ได้ครับ เค้าก็เลยนำเครื่อง Tape Reading Machine เครื่องนี้มาใช้ดูราคาหุ้นกันครับ ดูจากภาพได้เลยๆ
