เรามักจะได้ยินคำสอนต่อๆกันมาว่า เวลาจะเลือกซื้อหุ้นให้มองหาโอกาศที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าความเสี่ยงสัก 3 เท่า ทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น? และมันเกี่ยวอะไรกับ Margin of Safety ของระบบหรือหลักการลงทุนที่คุณใช้อยู่ วันนี้เราจะคุยเรื่องนี้กันครับ
แต้มต่อคืออะไร?
ความจริงแล้วคำว่าแต้มต่อนั้น พูดแบบมีหลักวิชาหน่อยก็คืออัตรากำไรที่เราคาดหวังจะได้เปรียบเทียบกับความเสี่ยงที่เราต้องแบกรับ โดยในเชิงของการเล่นหุ้นอย่างเป็นระบบแล้ว เราสามารถจะเรียกมันสั้นๆว่า Payoff ของระบบก็ได้ หรือนั่นก็คืออัตราผลกำไรโดยเฉลี่ยต่อการขาดทุนโดยเฉลี่ยซึ่งเขียนเป็นสูตรได้ดังนี้
แต้มต่อมีความสำคัญอย่างไร?
แต้มต่อนั้นมีความสำคัญอย่างมากเมื่อเรามองไปยังระบบหรือแนวทางการลงทุนในทุกๆรูปแบบ เนื่องจากระบบการลงทุนที่จะให้กำไรออกมาในระยะยาวได้นั้น จะต้องมีค่ากำไรคาดหวังหรือ Expectancy ที่เป็นบวก และสิ่งที่จะทำให้ Expectancy เป็นบวกได้ก็คือสัดส่วนและความสัมพันธ์ระหว่างความแม่นยำ (Accuracy) กับแต้มต่อโดยเฉลี่ย (Pay off) ตามสูตรดังนี้
โดยที่
E = กำไรคาดหวัง
AW = กำไรโดยเฉลี่ย
AL = การขาดทุนโดยเฉลี่ย
P = ร้อยละอัตราความแม่นยำ
1-P = ร้อยละอัตราความผิดพลาด
โดยหากว่ามันมีค่าน้อยเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับความแม่นยำของระบบใดๆแล้วล่ะก็ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราจะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในระยะยาวนั่นเอง
ความสัมพันธ์ของความแม่นยำและแต้มต่อ
เนื่องจากค่า Expectancy นั้นก็คือความสัมพันธ์ระหว่างความแม่นยำและแต้มต่อ เมื่อเราทำการแทนสูตรทางคณิตศาสตร์ต่อไปอีกสักหน่อย (ซึ่งผมขอเก็บไว้อธิบายในคราวหลังหากมีโอกาส) เราก็จะสามารถหาอัตราแต้มต่อที่น้อยที่สุดในการที่เราจะมีกำไรในระยะยาวออกมาได้ตามระดับความแม่นยำจากระบบการลงทุนของเราดังสูตรนี้
โดยต่อไปนี้ก็คือตารางแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างค่า Payoff และความแม่นยำในการที่ระบบใดๆจะมีกำไรในระยะยาวขึ้นมาได้
แต้มต่อ (เท่า) | ความแม่นยำ |
10 | 9.09% |
5 | 16.67% |
3 | 25.00% |
2 | 33.33% |
1 | 50.00% |
0.75 | 57.14% |
0.5 | 66.67% |
0.25 | 80.00% |
0.125 | 88.88% |
3:1 แต้มต่อมหัศจรรย์ของนักเล่นหุ้น
จากตารางความสัมพันธ์ระหว่างแต้มต่อและความแม่นยำด้านบนนั้น คุณคงจะสังเกตุได้ถึงพลังของการมีแต้มต่อได้อย่างชัดเจน นั่นก็เพราะมันสามารถที่จะช่วยให้คุณมีกำไรในระยะยาวขึ้นมาได้อย่างง่ายดายขึ้นนั่นเอง โดยเราจะสังเกตุได้ว่าที่ระดับแต้มต่อ 3 เท่า เราจำเป็นที่จะต้องมีความแม่นยำเพียงแค่ 25% เท่านั้น และเราจะยิ่งต้องการความแม่นยำน้อยลงไปอีกหากว่าเรามีอัตราแต้มต่อโดยเฉลี่ยที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมตำราทั่วๆไปจึงแนะนำให้คุณมองหาโอกาสที่มีสัดส่วนระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างน้อยที่ 3:1 เท่านั่นเอง
Margin of Safety ของระบบการลงทุน
พลังของแต้มต่อนั้นคือคำตอบหนึ่งที่ว่าทำไมหลักการลงทุนแบบ Value Investing, Trend Following หรือระบบการลงทุนอื่นๆที่มีลักษณะการทำกำไรแบบ “กินคำใหญ่” จึงมีความเสถียรและยั่งยืนสูงกว่าการเล่นสั้นๆแบบกินคำเล็กๆได้เป็นอย่างดี นั่นก็เพราะมันช่วยเผื่อความผิดพลาดให้คนธรรมดาสามัญมีโอกาสที่จะทำกำไรในตลาดหุ้นออกมาได้ แม้เขาจะไม่ต้องเป็นเซียนหุ้นอัจฉริยะที่หยั่งรู้ตลาดหุ้นได้ตลอดเวลาก็ตาม (ผมไม่ได้หมายความว่าระบบการเล่นสั้นๆจะทำกำไรไม่ได้ แต่มันต้องใช้ความชำนาญที่สูงขึ้นอย่างมาก) ดังนั้นแล้วก็มีอัตราแต้มต่อที่สูงในระยะยาวจึงไม่ต่างอะไรกับ Margin of Safety ของระบบการลงทุนสำหรับคนธรรมดาโดยทั่วไปนั่นเอง
และคำถามที่ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้ก็คือ … วันนี้คุณได้เคยนั่งนึกถึงแต้มต่อจากระบบการลงทุนของคุณบ้างหรือยังครับ?