fbpx
วิธีการเล่นหุ้นและวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

เทคนิคการอ่านโวลุ่มในการเล่นหุ้น : Tape Reading By Linda Bradford Raschke

Google+ Pinterest LinkedIn Tumblr

หุ้น_Stock_Maket_Ticker_Tape เทคนิคการอ่านโวลุ่มในการเล่นหุ้น Tape Reading By Linda Bradford Raschke (Part 1)

วันนี้นำเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องมาให้อ่านกันครับ เป็นเรื่องที่หาข้อมูลศึกษาค่อนข้างยากพอสมควรแม้จะเป็นในต่างประเทศก็ตาม ผมพยายามหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ที่ยังมีขายกันอยู่ก็มีเพียงไม่กี่เล่มที่เป็นหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะเท่านั้น นั่นก็คือเรื่องของการอ่านโวลุ่มการซื้อขายจากบิด-ออฟเฟอร์ หรือที่เรียกกันว่า Tape Reading ครับ โดยวันนี้ผมนำมาจากบทความของคุณ Linda Bradford Raschke เจ้าเก่ามาให้อ่านครับ

 

วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

การอ่านโวลุ่มการซื้อขายจากบิด-ออฟเฟอร์ในการเล่นหุ้น

ในบางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะย้อนกลับมาทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดง่ายๆ ในขณะที่ตลาดหุ้นกำลังมีความผันผวนที่สูงมากอย่างในขณะนี้ ถึงแม้ว่าระบบการลงทุนและรูปแบบของราคาต่างๆนั้น จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการที่จะวิเคราะห์ถึงสภาพการณ์โดยรวม แต่อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่ง Richard Dennis ก็ยังเคยพูดถึงการเรียนรู้ที่จะ “คาดการณ์” สัญญาณซื้อ-ขายที่จะเกิดขึ้นขึ้น เพื่อที่ในบางครั้งอาจช่วยในการขายหุ้นได้เร็วขึ้น และช่วยในการแยกแยะว่าการซื้อ-ขายของเราในครั้งนี้ได้ผลหรือไม่

วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

การอ่านโวลุ่มการซื้อขายหุ้นด้วย  Tape Reading

“เทคนิคในการเล่นหุ้นต่างๆนั้น แท้จริงแล้วก็คือความสามารถเฉพาะตัวของนักเล่นหุ้น จากการที่เขาได้เรียนรู้ สังเกต และทำการทดลองสมมุติฐานของเขา เพื่อช่วยในการที่จะหาสัญญาณซื้อ-ขายหุ้นในสภาวะต่างๆของตลาดนั่นเอง”

-George Douglas Taylor

วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

เราอาจกล่าวได้ว่า Tape reading นั้น คือการศึกษาและฝึกฝนการเคราะห์หุ้นจากโวลุ่มและการเคลื่อนไหวของราคา ที่เกิดขึ้นในรูปแบบของ Ticker Tape ของคนสมัยก่อน เพื่อช่วยในการคาดการณ์ถึงสภาพของตลาดในขณะนั้นนั่นเอง

แท้จริงแล้ว Tape Reading นั้นไม่มีอะไรที่มากไปกว่าการมองไปที่ราคาของหุ้นแล้วถามตัวคุณเองว่า “ในตอนนี้นั้นราคาอยู่ในแนวโน้มขึ้นหรือลง?” มันไม่มีความเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคสมัยใหม่ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการเปิดใจของคุณให้กว้างเอาไว้ตลอดเวลา

แม้กระทั่งนักเล่นหุ้นมือใหม่นั้น ก็ยังมีความสามารถที่จะสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับราคาหุ้นได้ว่า มันกำลังวิ่งขึ้นหรือวิ่งลงในขณะนั้น หรือแม้กระทั่งรู้ได้ว่าราคาหุ้นนั้นไม่ได้วิ่งไปไหนเลย (ราคาหุ้นไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวไปมาตลอดเวลาก็ได้!) และมันยังก็ยังเป็นการง่ายมากที่จะสังเกตเห็นว่า ราคาหุ้นได้วิ่งขึ้นไปและเริ่มที่จะหยุดนิ่งเช่นกัน ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะก็ตาม

วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

หุ้น LindaRaschkeฉันได้รู้จักกับนักเก็งกำไรมืออาชีพหลายต่อหลายคนจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในอาชีพของฉัน จริงๆแล้วฉันไม่อยากที่จะทำให้คุณผิดหวังหรอกนะ แต่ฉันอยากจะบอกว่า ฉันรู้จักคนแค่เพียงสองคนเท่านั้น ที่สามารถที่จะหาเลี้ยงตนเองได้จากการเล่นหุ้นด้วยการใช้ระบบการลงทุนอัตโนมัติในการเล่นหุ้น (ไม่นับรวมคนที่เป็นผู้บริหารกองทุนชั้นนำ) นักเก็งกำไรที่สามารถอยู่ได้ด้วยการเล่นหุ้นนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีความสามารถในการที่จะวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ

หากคุณนั้นสามารถที่จะวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาได้ล่ะก็ นั่นหมายถึงว่าคุณจะมีความได้เปรียบกว่านักเก็งกำไรคนอื่นได้ถึงสองก้าวเลยทีเดียว เนื่องจากว่าราคาที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นคือข่าวสารที่เร็วที่สุดมากกว่าสิ่งใดๆนั่นเอง คุณอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ข้อมูลที่เป็นความจริงนั้นอยู่ในการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นนั่นเอง” งานของคุณในฐานะของนักเก็งกำไรหุ้นจะง่ายขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบๆเท่าหลังจากคุณได้ยอมรับความจริงข้อนี้ นั่นหมายถึงคุณควรที่จะ เลิกฟังข่าวสาร, ความเห็น, หรือแม้กระทั้งความคิดของใครบางคนนั่นเอง

วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

แน่นอนว่า การจ้องมองไปที่การเคลื่อนไหวของราคาอย่างเดียวนั้นสามารถที่จะสร้างความสับสนกับคุณเป็นอย่างมาก หากคุณนั้นไม่มีแนว ทางในการวิเคราะห์มัน เปรียบเหมือนกับการล่องเรืออกทะเลโดยไม่มีหางเสือนั่นเอง คุณจะโดนคลื่นซัดไปซัดมาอยู่กลางทะเลโดยไม่รู้ว่าจะไปทางใด อย่างไรก็ตาม มีเทคนิคหลักๆอยู่ 2 อย่างในการวิเคราะห์ถึงการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น อย่างแรกก็คือ การเปรียบเทียบราคาในปัจจุบันกับ “จุดอ้างอิง” บางอย่าง และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนักเล่นหุ้นหลายๆคนจึงเลือกที่จะใช้ แนวรับ-แนวต้านนั่นเอง ซึ่งมันก็ใช้ได้ผลดีทีเดียว มันคือหนทางที่ง่ายที่สุดที่คุณจะสามารถบอกได้ว่า ตลาดกำลังวิ่งไกลออกไป หรืออยู่ใกล้ๆจุดอ้างอิงนั้น และนี่เป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ว่า ทำไมคุณจึงสามารถที่จะรับความรู้ได้ดีกว่า หลังจากที่คุณได้เข้าซื้อหุ้นไป เพราะจุดอ้างอิงที่ว่านั้นก็คือ ระดับราคาของหุ้นในขณะที่คุณได้เข้าซื้อไปนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม จุดอ้างอิงบางอย่าง เช่น จุดสูงสุด-ต่ำสุดในแต่ละวันนั้น อาจมีความสำคัญมากกว่าจุดอ้างอิงอื่นๆ (ซึ่งบางคนอาจเถียงว่าจุดอ้างอิงบางจุดที่พวกเขาได้คำนวณเอาไว้มีความสำคัญมากกว่า ซึ่งฉันคงไม่ไปเถียงด้วยหากว่ามันสามารถใช้ได้ดีกว่าจริงๆ) ฉันมักที่จะเพ่งสมาธิและให้ความสำคัญไปที่แนวรับ-แนวต้านซึ่งทุกคนที่มีส่วนร่วมอยู่ในตลาดเห็นพ้องกัน พูดย่อๆแล้วก็คือ เมื่อคุณต้องการจะวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคานั้น คุณจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ นั่นก็คือ มันวิ่งไปไกลแค่ไหน เร็วแค่ไหน และในทิศทางใดนั่นเอง โดยคุณจำเป็นที่จะต้องมีจุดอ้างอิงสองจุดในการที่จะวัดสิ่งต่างๆเหล่านี้ นั่นก็คือ ระดับราคาในขณะนี้ และระดับแนวรับ-แนวต้านนั่นเอง

*อย่าเอาแต่มองไปที่ราคาเพียงอย่างเดียว คุณควรมองราคาของหุ้นด้วยความพยายามที่จะวิเคราะห์ถึงบางสิ่ง หรือไม่ก็เพื่อคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อถึงระดับราคานั้นๆ

วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

เราจะมาว่ากันต่อในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับหลักข้อที่สองในการวิเคราะห์หุ้นด้วยวิชา Tape Reading กันนะครับ เจอกันใหม่ที่ แมงเม่าคลับ.คอม นะครับ หากใครมีเทคนิคหรือแนวทางการมองโวลุ่มการซื้อขายหรือรูปแบบบิด-ออฟเฟอร์ที่น่าสนใจ ก็คอมเมนท์แบ่งปันกันได้เลยนะครับ รอฟังอยู่เช่นกัน สวัสดีครับ

ถ้าเห็นว่าบทความไหนมีประโยชน์ เพื่อนๆสามารถที่จะนำบทความไปแปะเพื่อแบ่งปันได้โดยไม่มีปัญหา แต่ยังไงขอแรงช่วยลิงค์อ้างอิงกลับมาที่แมงเม่าคลับกันหน่อยนะครับ :D หมายเหตุ : สำหรับการแปะลิงค์ใน Pantip.com ช่วยใส่ Link ให้เป็น http://www.mangmaoclub.com เพื่อให้แปะลงไปได้โดยไม่ Error ขอบคุณครับ :)