fbpx
ถอดรหัสเซียนหุ้น กุญแจแห่งการเก็งกำไรของลิเวอร์มอร์

ถอดรหัสเซียนหุ้น กุญแจแห่งการเก็งกำไรของลิเวอร์มอร์ – บทที่ 3 : หุ้นนำตลาด

Google+ Pinterest LinkedIn Tumblr

เกริ่นนำ

หนังสือ “ถอดรหัสเซียนหุ้น : กุญแจแห่งการเก็งกำไรของลิเวอร์มอร์” เล่มนี้นั้น แปลจากต้นฉบับหนังสือ How to trade in stocks by Jesse L. Livermore Duel, Sloan & Pearce, 1940 Original โดยที่ผม มนสิช จันทนปุ่ม (มด แมงเม่าคลับ) ขออนุญาติสงวนลิขสิทธิ์ในการดัดแปลงแก้ไข และใช้งานเพื่อการค้าต่างๆตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านสามารถทำการแชร์และแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้อ่านได้โดยสะดวกทั่วกัน

โดยที่ซีรี่ส์บทความ “ถอดรหัสเซียนหุ้น กุญแจแห่งการเก็งกำไรของลิเวอร์มอร์” ในครั้งนี้นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากผมเองได้พบว่ามีนักแปลและสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ได้นำเอางานแปลของผมไปดัดแปลงเพื่อทำประโยชน์ทางการค้าโดยมิได้ขออนุญาติกับผมก่อน ตามรายละเอียดในลิงค์นี้

คำชี้แจงเกี่ยวกับหนังสือ How to Trade in Stocks ของ Jesse Livermore ที่ผมเคยได้แปลไว้…

Publiée par แมงเม่าคลับ แบ่งปันความรู้ในการเล่นหุ้น sur Jeudi 20 juin 2019

 

Update : เรื่องการโดนนำเนื้อหาการแปลหนังสือ How to Trade in Stocks ที่ผมได้เคยแปลไว้ไปดัดแปลงพิมพ์จำหน่าย…

Publiée par แมงเม่าคลับ แบ่งปันความรู้ในการเล่นหุ้น sur Mardi 9 juillet 2019

 

ผมจึงได้ตัดสินใจที่จะนำงานแปลต้นฉบับของผมทั้งหมดลงไว้ในเว็บไซต์แมงเม่าคลับแห่งนี้ เพื่อเป็นการส่งมอบความรู้ให้กับทุกท่านโดยสาธารณะ (แต่ขออนุญาติสงวนลิขสิทธิ์ในการนำไปใช้ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผมก่อนนะครับ)

หวังว่าจะมีประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านครับ :D


บทที่ 3 : หุ้นนำตลาด

ตลาดหุ้นยังคงจะหอมหวานและยั่วยวนจิตใจของเราได้อยู่เสมอ มันมักจะทำให้เราประมาทและทะเยอทะยานจนสุดกู่โดยเฉพาะหลังจากช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ นั่นจึงทำให้สามัญสำนึกที่เหมาะสมและความคิดที่ชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็นในการที่จะรักษาผลกำไรของคุณเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ขอเพียงแค่คุณได้ยึดมั่นในหลักการเก็งกำไรที่เหมาะสมเอาไว้ คุณก็จะไม่ต้องสูญเสียมันไปโดยไม่จำเป็น

เราทุกคนต่างก็รู้ดีว่าราคาหุ้นนั้นย่อมมีขึ้นและมีลง พวกมันยังคงเป็นเช่นนี้อยู่เสมอและจะยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป จากทฤษฎีของผมนั้นกลไกที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต่างๆในตลาดหุ้นก็คือผลลัพธ์ของพลังบางอย่างที่ไม่มีใครจะสามารถต้านทานมันเอาไว้ได้ นี่คือทั้งหมดที่เราจำเป็นจะต้องรู้เกี่ยวกับมัน มันไม่ใช่เรื่องดีนักที่คุณจะต้องคอยสงสัยถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจนมากเกินไป นั่นเพราะคุณกำลังเสี่ยงที่จะทำให้จิตใจของคุณว้าวุ่นอยู่กับสิ่งที่ไม่สำคัญจนเกินไป สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ตระหนักให้ได้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นกำลังเกิดขึ้น และจงช่วงใช้ประโยชน์จากมันโดยหันหัวเรือแห่งการเก็งกำไรให้สอดคล้องไปกับคลื่นลมก็เท่านั้น จงอย่าได้พยายามโต้แย้งหรือฝืนสภาวะของตลาด และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือจงอย่าพยายามที่จะต่อสู้กับมันเป็นอันขาด

มันอันตรายเกินไปในการที่คุณจะกระจายเม็ดของคุณเงินออกไปจนทั่วทั้งตลาด ความหมายของผมก็คืออย่าได้สนใจหุ้นหลายๆตัวมากจนเกินไปในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะมันเป็นเรื่องง่ายกว่ามากที่คุณจะเฝ้ามองบางสิ่งแทนที่จะเป็นทุกสิ่ง ผมได้เคยทำผิดพลาดไปด้วยการทำเช่นนี้เมื่อหลายปีมาแล้วและมันก็ได้ทำให้ผมต้องสูญเสียเงินของผมไปเป็นจำนวนมาก

ความผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งที่ผมได้กระทำลงไปก็คือการที่ผมปล่อยให้ตัวเองเชื่อว่าหุ้นจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงพร้อมๆกันทั้งตลาดเพียงเพราะมีหุ้นบางตัวในกลุ่มของพวกมันเริ่มที่จะวิ่งสวนทางกับแนวโน้มโดยรวมของตลาดขึ้นมา ทั้งๆที่ก่อนที่ผมจะกระทำการใดๆลงไปในตลาดนั้น ผมควรที่จะต้องอดทนและเฝ้ารอคอยให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมโดยรอให้หุ้นบางตัวในอีกกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่งได้บ่งชี้กับผมว่าการขึ้นหรือลงของตลาดโดยรวมนั้นได้จบลงเรียบร้อยแล้ว เพราะเมื่อถึงช่วงเวลาเหล่านั้น หุ้นตัวอื่นๆก็น่าที่จะเริ่มส่งสัญญาณบางอย่างออกมาโดยชัดเจนเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณบอกใบ้ที่ผมควรจะรอให้มันเกิดขึ้นมาเสียก่อนด้วยกันทั้งสิ้น

แต่แทนที่ผมจะทำเช่นนั้น ผมกลับรู้สึกร้อนรนที่จะต้องจัดการกับหุ้นทั่วทั้งตลาดจนส่งผลเสียขึ้นมา ผมได้ปล่อยให้ความทะเยอทะยานของผมเข้าแทนที่สามัญสำนึกและการตัดสินใจที่ดีของผมไป ผลก็คือถึงแม้ว่าผมจะยังคงสามารถทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมแรกและกลุ่มที่สองของผมเอาไว้ได้ แต่ผมก็ได้ปล่อยให้กำไรก้อนใหญ่อีกส่วนหนึ่งต้องหลุดลอยไปจากการที่ผมรีบกระโจนเข้าไปยังหุ้นอีกกลุ่มก่อนที่ช่วงเวลาอันสุกงอมจะมาถึง

เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงของตลาดกระทิงเมื่อปลายศตวรรษที่ยี่สิบ ในขณะนั้นผมมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการพุ่งขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมทองแดงกำลังที่จะจบลงในไม่ช้า โดยหลังจากนั้นไม่นานนัก การวิ่งขึ้นมาของราคาหุ้นในกลุ่มยานยนต์ก็ได้มาถึงจุดสูงสุดของมันเช่นกัน และเนื่องจากภาวะกระทิงของหุ้นทั้งสองกลุ่มนั้นได้มาถึงจุดจบของมันแล้ว นั่นจึงทำให้ผมคิดไปเองว่าผมสามารถที่จะขายชอร์ทหุ้นทุกๆกลุ่มในตลาดได้อย่างปลอดภัยแต่มันก็กลับไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งความจริงแล้วผมควรจะต้องขยาดที่จะเล่าถึงจำนวนเงินที่ผมได้สูญเสียไปจากสมมติฐานเหล่านั้นเสียด้วยซ้ำ

ในขณะที่ผมกำลังมีกำไรทางบัญชีอย่างมากจากการถือหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมทองแดงและยานยนต์อยู่นั้น อีกหกเดือนต่อมาผมก็กลับต้องสูญเสียเงินของผมไปมากกว่ากำไรที่ทำได้มา และนั่นก็เป็นเพียงเพราะความพยายามที่จะขายชอร์ทหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคที่จุดสูงสุดของมันให้ได้ในเวลาที่เร็วจนเกินไป ซึ่งในที่สุดหลังจากนั้นแล้วหุ้นในกลุ่มนี้และกลุ่มอื่นๆก็ได้พบกับจุดสูงสุดของมันจริงๆ โดยในขณะนั้นหุ้น Anaconda ก็ได้ถูกซื้อขายกันในราคาที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดในรอบที่แล้วถึง 50 เหรียญเลยทีเดียว ส่วนราคาของหุ้นในกลุ่มยานยนต์ก็เป็นเช่นนั้นในอัตราส่วนที่พอๆกัน

สิ่งที่ผมต้องการที่จะเน้นย้ำกับคุณก็คือความจริงที่ว่า เมื่อคุณมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะเกิดการเคลื่อนไหวขึ้นกับหุ้นในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคุณก็ควรทำบางอย่างกับมันเสีย แต่จงอย่าปล่อยให้ตัวของคุณทำบางอย่างลงไปในลักษณะเดียวกันกับหุ้นทุกๆกลุ่ม จนกว่าที่คุณจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าหุ้นในกลุ่มที่สองนั้นก็กำลังจะดำเนินรอยตามหุ้นในกลุ่มแรกมา จงรู้จักอดทนและเฝ้ารอคอยกับมัน เพราะไม่นานนักคุณก็จะได้รับสัญญาณจากหุ้นกลุ่มอื่นๆในลักษณะเช่นเดียวกันกับหุ้นในกลุ่มแรก ดังนั้นจงอย่าได้กระกระจายเงินของคุณออกไปจนทั่วทั้งตลาดพร้อมๆกันเป็นอันขาด

นอกจากนี้แล้ว คุณยังควรที่จะจำกัดขอบเขตในการติดตามถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของตลาดอยู่กับหุ้นที่โดดเด่นที่สุดในช่วงเวลานั้นอีกด้วย เพราะหากว่าคุณไม่สามารถที่จะทำกำไรจากหุ้นนำตลาดเหล่านี้ได้แล้ว คุณก็คงไม่สามารถที่จะทำกำไรจากหุ้นทั่วๆไปในตลาดได้เช่นเดียวกัน

เมื่อเปรียบเทียบตลาดหุ้นกับแฟชั่นของเสื้อคลุม, หมวก และเครื่องประดับของบรรดาสุภาพสตรีที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแล้ว ความนิยมที่มีต่อหุ้นนำตลาดตัวเก่าๆก็ย่อมที่จะต้องลดลงไปตามกาลเวลา และพวกมันก็ย่อมจะถูกแทนที่ด้วยหุ้นนำตลาดตัวใหม่ๆขึ้นมาเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อหลายปีที่ผ่านมาหุ้นนำตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือหุ้นในกลุ่มของอุตสาหกรรมรางรถไฟ, น้ำตาลและใบยาสูบ แต่มันก็ได้ถูกแทนที่ด้วยหุ้นในกลุ่มเหล็กขึ้นมาในภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่าหุ้นในกลุ่มรางรถไฟ, น้ำตาล และใบยาสูบก็ย่อมที่จะถูกผลักลงไปอยู่เบื้องหลังแทน สำหรับในยุคต่อมานั้น มันก็ได้กลายเป็นยุคของหุ้นในกลุ่มยานยนต์และหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน โดยในทุกๆวันนี้ เรามีหุ้นอยู่เพียงสี่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของตลาดอยู่ นั่นก็คือหุ้นในกลุ่มเหล็ก, ยานยนต์, เครื่องบิน และการไปรษณีย์ ซึ่งเมื่อพวกมันวิ่งไปในทิศทางใดแล้วตลาดทั้งตลาดก็จะวิ่งตามไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อวันเวลาได้ผ่านไป หุ้นนำตลาดตัวใหม่ๆก็จะเข้ามาแทนที่พวกมันไปเรื่อยๆ หุ้นที่เคยนำตลาดอยู่ก็จะค่อยๆถูกลดทอนบทบาทของมันลงไป และมันก็ยังจะเป็นเช่นนี้ไปอีกตราบนานเท่านาน

มันเป็นเรื่องที่แน่นอนเหลือเกินว่า การพยายามติดตามหุ้นหลายตัวจนเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำเท่าไหร่นัก เพราะนั่นจะทำให้คุณวุ่นวายอยู่กับพวกมันจนเกิดความสับสน จงพยายามวิเคราะห์และเปรียบเทียบหุ้นเพียงไม่กี่กลุ่มในช่วงเวลาเดียวกันเท่านั้น แล้วคุณก็จะพบว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากกว่าการที่คุณจะพยายามแกะรอยหุ้นทั้งตลาดพร้อมๆกัน และขอเพียงแค่คุณสามารถที่จะวิเคราะห์ถึงต้นสายปลายเหตุของหุ้นสักสองตัวในสี่กลุ่มอุตสาหกรรมที่โดดเด่นออกมาได้ คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจกับหุ้นที่เหลือในตลาดสักเท่าไหร่แล้ว เพราะในที่สุดมันก็จะวนกลับไปที่เรื่องเดิมๆ นั่นก็คือเรื่องของ “การเล่นหุ้นนำตลาด” นั่นเอง อย่างไรก็ตาม จงพยายามเปิดใจให้กว้างอยู่เสมอและจำไว้ให้ดีว่า หุ้นนำตลาดในวันนี้อาจไม่ใช่หุ้นนำตลาดในอีกสองปีข้างหน้าก็เป็นได้

ในทุกๆวันนี้ ถึงแม้ว่าผมจะทำการบันทึกราคาของหุ้นทั้งสี่กลุ่มอุตสาหกรรมเอาไว้ในสมุดบันทึกของผม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับหุ้นทุกตัวในเวลาเดียวกัน แต่ที่ผมทำลงไปก็เพราะผมมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนอย่างที่ว่ามานั่นเอง

นานมาแล้วเมื่อครั้งที่ผมเริ่มสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นนั้น ผมได้ตัดสินใจที่จะทดสอบความสามารถในการคาดการณ์ถึงการเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตออกมา ผมได้จดบันทึกผลการซื้อขายจำลองเอาไว้ในสมุดโน้ตซึ่งผมมักจะนำมันติดตัวเอาไว้อยู่เสมอ หลังจากนั้นไม่นานนัก ผมก็ได้มีโอกาสทำการซื้อขายหุ้นจริงๆขึ้นเป็นครั้งแรกและผมก็ไม่มีวันที่จะลืมมันได้เลย ในคราวนั้น ผมได้หุ้นเงินครึ่งหนึ่งร่วมกับเพื่อนเพื่อซื้อหุ้น Chicago, Burlington & Railway เป็นจำนวนทั้งหมด 5 หุ้น ผลของการซื้อขายในครั้งนั้น ทำให้ผมมีกำไรขึ้นมาถึง $3.12 ต่อหุ้น และนั่นทำให้ผมมีเงินเพียงพอที่จะเก็งกำไรด้วยตัวของผมเองเพียงลำพังในเวลาต่อมา

สำหรับในสภาวะการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้นั้น ผมไม่เชื่อเลยว่านักเก็งกำไรที่เล่นหุ้นด้วยวิธีการดั้งเดิมซึ่งมักที่จะทำการซื้อขายหุ้นคราวละมากๆจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้สักเท่าไหร่นัก โดยเมื่อผมพูดถึงนักเก็งกำไรแบบดั้งเดิมนั้น ผมกำลังหมายถึงเมื่อครั้งที่ตลาดหุ้นยังคงยิ่งใหญ่และมีปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นมากๆ ซึ่งนั่นทำให้บรรดานักเก็งกำไรในยุคนั้นสามารถที่จะทำการซื้อขายเข้าๆออกๆได้ถึงคราวละ 5,000 หรือ 10,000 หุ้นโดยไม่มีผลกระทบอะไรกับตลาดมากเท่าไหร่นัก

โดยภายหลังจากที่พวกเขาได้ทำการเข้าซื้อขายหุ้นในไม้แรกเขาไปแล้ว หากว่าหุ้นได้ประพฤติตัวอย่างเหมาะสมพวกเขาๆก็สามารถที่จะขยับขยายปริมาณการซื้อขายพวกของเขาต่อไปได้อย่างปลอดภัย เพราะในยุคก่อนๆนั้นหากว่าการตัดสินใจของพวกเขาได้เกิดความผิดพลาดขึ้น พวกเขาก็สามารถที่จะหนีออกมาได้โดยไม่จำเป็นต้องเจอกับการขาดทุนอย่างหนักสักเท่าไหร่นัก แต่ในปัจจุบันนี้ หากว่าการเข้าซื้อขายในไม้แรกได้ถูกพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม พวกเขาย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องเจอกับการขาดทุนอย่างหนักจากการพยายามที่จะหนีออกมาจากตลาด ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะสภาวะของตลาดซึ่งคับแคบลงประจวบกับการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากนั่นเอง

ในทางกลับกันแล้วจากความเห็นของผม นักเก็งกำไรในยุคปัจจุบันที่มีการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและมีความอดทนอดกลั้นที่จะรอคอยต่อช่วงเวลาที่เหมาะสมจะมีโอกาสที่ดีกว่าเป็นอย่างมากในการที่จะทำกำไรออกไปจากตลาดได้ เนื่องจากสภาวะของตลาดหุ้นในปัจจุบันนั้น ไม่ได้เหมาะสำหรับความพยายามที่จะปลุกปั่นกระแสเทียมๆขึ้นมาได้สักเท่าไหร่นัก

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจากสภาวะของตลาดในปัจจุบันนี้ ไม่มีนักเก็งกำไรที่หลักแหลมคนใดจะปล่อยให้ตัวของเขาเองทำการซื้อขายในปริมาณที่มากกว่าในหลายๆปีก่อนเลย พวกเขาจะพยายามจำกัดขอบเขตของการค้นคว้าอยู่ในอุตสาหกรรมบางกลุ่มและหุ้นนำตลาดบางตัวเท่านั้น นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังเรียนรู้ที่จะชะเง้อมองก่อนที่จะกระโจนเข้าไปในตลาดด้วยเช่นกัน โดยสำหรับตลาดในยุคใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาถึงนั้น ผมเชื่อว่ามันจะกลายเป็นยุคทองสำหรับนักลงทุนหรือนักเก็งกำไรที่มีเหตุมีผล, พากเพียรศึกษา และมีความสามารถที่เพียงพอเท่านั้น

[ จบบทที่สอง รอติดตามบทที่สองได้ในบทความต่อไปเร็วๆนี้ หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Comment เพื่อสอบถามและพูดคุยกับผมได้เลยนะครับผม :D ]

ถ้าเห็นว่าบทความไหนมีประโยชน์ เพื่อนๆสามารถที่จะนำบทความไปแปะเพื่อแบ่งปันได้โดยไม่มีปัญหา แต่ยังไงขอแรงช่วยลิงค์อ้างอิงกลับมาที่แมงเม่าคลับกันหน่อยนะครับ :D หมายเหตุ : สำหรับการแปะลิงค์ใน Pantip.com ช่วยใส่ Link ให้เป็น http://www.mangmaoclub.com เพื่อให้แปะลงไปได้โดยไม่ Error ขอบคุณครับ :)