คำสอนแห่งตำนานการลงทุน Bernard Baruch โดย Charles Kirk
Baruch คือผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นแนวหน้าของวงการการเงินและตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในยุคของเขา คำสอนของยังคงมีคุณค่าอย่างสูงในปัจจุบันอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต เขาได้ค่อยๆสะสมความมั่งคั่งจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะกลายไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับประธานาธิบดี Woodrow Wilson และ Franklin Roosevelt ในเวลาต่อมา และนี่คือคมความคิดของเขาครับ
ประวัติโดยย่อ
หลังจากที่ Baruch จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในนิวยอร์คเมื่อปีค.ศ. 1880 เขาเริ่มทำงานงานอยู่ในธุรกิจผ้าลินินและหลังจากนั้นก็ได้ทำงานอยู่ในโบรคเกอร์แห่งหนึ่งในวอลล์สตรีท หลังจากนั้นเขาก็ได้ค่อยๆสะสมความมั่งคั่งจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะกลายไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับประธานาธิบดี Woodrow Wilson และ Franklin Roosevelt ในเวลาต่อมา Baruch คือผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นแนวหน้าของวงการการเงินและตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในยุคของเขา คำสอนของยังคงมีคุณค่าอย่างสูงในปัจจุบันอย่างที่มันเคยเป็นในอดีตที่ผ่านมาหลายทศวรรษ
แนวทางการเล่นหุ้นของ Bernard Baruch
– Baruch มีประสบการณ์กับการเริ่มต้นในการเก็งกำไรอย่างที่หลายๆคนได้เคยประสบมา นั่นก็คือ เขาสูญเสียเงินของเขาไปอย่างมากมาย เนื่องจากเขาขาดทั้งความรู้, ประสบการณ์และวินัยในการลงทุน โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “คุณอาจจำเป็นต้องสูญเสียเงินของคุณไปบ้าง เพื่อที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้นมา”
– การเก็งกำไรบ่อยครั้งจนมากเกินไป และการถือหุ้นอยู่หลายตัวจนมากเกินไปนั้น ได้ทำให้เขาต้องหมดตัวอยู่หลายครั้ง ก่อนที่เขาจะสามารถสร้าง “วินัย” ในการลงทุนของเขาขึ้นมาได้
– การทำสิ่งต่างๆอย่างทันท่วงทีคือสิ่งที่สำคัญ โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “นักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จ คือบุคคลที่มีวิสัยทัศน์และกระทำสิ่งต่างๆก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”
– หลังจากที่เขาได้สูญเสียเงินทุนไปอย่างมากมายจากการ “ฟัง” คนอื่น เขาได้พบถึงควาสำคัญของการยอมรับต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเขาได้กล่าวไว้ว่า “คนเราต้องรู้จักค้นหาความจริงจากความซับซ้อนและรายละเอียดต่างๆที่สับสนวุ่นวาย เพื่อที่จะได้ซึ่งข้อเท็จจริงที่ชัดเจน” เขายังได้กล่าวอีกว่า “เมื่อเราได้พบว่าข้อเท็จจริงคืออะไรแล้ว มันเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องสามารถทำสิ่งต่างๆตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างเยือกเย็นและชำนาญการ”
และ “ความท้าทายของการที่จะเป็นนักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จก็คือ การที่จะแยกแยะความจริงที่โหดร้ายออกจากความเห็นและความรู้สึกของบุคคลต่างๆรอบๆตัว” นอกจากนี้ “หากคุณสามารถที่จะค้นพบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แล้ว นั่นจึงจะสามารถทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและชัดเจน แต่หากคุณไม่สามารถมารถที่จะค้นพบว่าข้อเท็จจริงคืออะไรแล้วล่ะก็ มันก็ไม่มีทางที่คุณจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องได้เลย”
– จงซื่อสัตย์ต่อตัวของคุณเอง และจงคาดหวังที่จะผิดพลาดอีกหลายต่อหลายครั้ง อย่างที่คุณคาดหวังว่าคุณจะสามารถทำสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้อง และการตัดขาดทุนอย่างรวดเร็วคือสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเขากล่าวเอาไว้ว่า “หากเพียงว่านักเก็งกำไรคนใดๆ สามารถที่จะทำสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้องเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง เขาผู้นั้นก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่เหนือค่าเฉลี่ยแล้ว และถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะทำสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้องเพียงสามหรือสี่ในสิบครั้ง แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับพวกเขาได้ หากว่าพวกเขารู้จักที่จะตัดขาดทุนอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดไป”
– “หากว่าคุณคุณต้องสะดุ้งตื่นมากลางดึกเพราะหุ้นที่คุณถืออยู่ จงขายมันออกไปให้มากเพียงพอจนถึงจุดที่คุณจะนอนหลับลงไปได้”
– หนทางแห่งความสำเร็จในตลาดหุ้น คือการทุ่มเทให้กับมันอย่างสุดตัว “เนื่องจากตลาดหุ้นคือที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด คุณจึงต้องทุ่มเทความสนใจให้กับมันอย่างเต็มกำลัง การเก็งกำไรในตลาดหุ้นนั้นไม่แตกต่างไปจากการที่คุณจะประสบความสำเร็จในการเป็นแพทย์หรือนักกฎหมาย… คุณต้องทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มกำลัง ในการที่จะเรียนรู้ถึงศาสตร์ของคุณ”
– จากประสบการณ์ของเขา Baruch ได้เรียนรู้ถึงกฎทองข้อหนึ่ง นั่นก็คือ จงอย่าเชื่อ “หุ้นเด็ด” จากผู้ใด การพึ่งพาตนเองและการวิเคราะห์สิ่งต่างๆด้วยตนเองคือสิ่งที่จำเป็นในตลาดหุ้น
– Baruch ได้พบว่ามันเป็นการดีที่สุดที่จะปกปิดการลงทุนหรือการเก็งกำไรของเขาเอาไว้ และเขาเชื่อว่ามันเป็นการดีที่สุดที่จะเก็งกำไรด้วยตัวคนเดียว โดยหลังจากที่เขารีไทร์จากการทำงานให้กับ A.A. Housman & Company เขาได้ตัดสินใจที่จะออกมาเก็งกำไรตามลำพัง เขาทำเช่นนั้นก็เนื่องจากเขาเชื่อว่ามันเป็นการดีที่สุดที่จะเก็งกำไรตามลำพัง เพื่อที่จะรักษาสมาธิในการที่จะทำกำไรให้ได้มากที่สุด โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ที่ผมได้พบเจอมานั้น ทุกๆคนล้วนแต่ฟังมากกว่าพูด”
– จากที่ Baruch ได้กล่าวเอาไว้นั้น “ตลาดหุ้นไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนสภาวะทางเศรษฐกิจ แต่มันคือสิ่งที่ “สะท้อน” สภาวะทางเศรษฐกิจออกมา และความสามารถที่จะเข้าใจในสิ่งนี้ได้อย่างลึกซึ่งคือสิ่งที่สำคัญ”
– Baruch เก็งกำไรทั้งสองทาง นั่นคือทั้งซื้อหุ้น (Long) และขายหุ้น (Short) โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “การมีความความยืดหยุ่นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้”
– สำหรับเรื่องของความเสี่ยง Baruch ได้กล่าวเอาไว้ว่า “มันไม่มีการลงทุนใดๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง หรือแม้กระทั่งกับการพนัน” นอกจากนี้แล้ว “สิ่งที่เราอาจจะทำได้จริงๆนั้น ก็คือการทำความเข้าใจถึงวิธีลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าในสิ่งใดๆที่เราต้องยุ่งเกี่ยวกับมัน”
– Baruch ไม่เชื่อในการกระจายความเสี่ยง เขาเชื่อว่า “มันเป็นการดีกว่าที่จะมีหุ้นไม่กี่ตัว และเฝ้ามองมันเป็นอย่างดี”
– “การมีเงินทุนสำรองอยู่ตลอดเวลาคือสิ่งที่สำคัญ” เพื่อที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดที่กลายเป็นขาลงหรือเกิดการตกอย่างรุนแรง
– Baruch เชื่อว่าข้อผิดพลาดที่สำคัญสองประการ ซึ่งทำให้เขาสูญเสียเงินทองไปอย่างมากมายในช่วงปีแรกๆของการลงทุนนั้น ไม่แตกต่างจากความผิดพลาดที่นักลงทุนส่วนใหญ่คนอื่นๆได้พบเจอ นั่นก็คือ 1) “พวกเขารู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารงานของบริษัท, ผลกำไร, โอกาสและความน่าจะเป็นของการเติบโตทางธุรกิจที่น้อยจนเกินไป” และ 2) “พวกเขามักที่จะเก็งกำไรจนเกินตัว”
– “ความสำเร็จในการเก็งกำไรนั้น มาจากความสามารถในการที่จะวางตนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และรู้จักวางตนอยู่ในอุตสาหกรรมซึ่งกำลังจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ หรืออุตสาหกรรมซึ่งกำลังจะเกิดการพลิกฟื้น และนี่คือที่ๆกำไรก้อนใหญ่ของคุณจะเกิดขึ้นมา … นักเก็งกำไรที่เฉลียวฉลาดในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมานั้น ต่างล้วนมีทักษะของการปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เนื่องจากตลาดหุ้นจะยังคงสร้างโอกาสใหม่ๆที่แตกต่างไปจากเดิมต่อไปเรื่อยๆ”
– สิ่งที่ขับเคลื่อนราคาของหุ้นคือการตอบสนองตามสัญชาติญาณของมนุษย์ ดังนั้น สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญของการประสบความสำเร็จในการเก็งกำไรก็คือ ความสามารถในการแยกแยะการตัดสินใจออกมาจากอารมณ์ของเราเอง “เมื่อไม่อาจที่จะรวบคุมอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ได้ ก็ย่อมเหลือโอกาสอยู่เพียงน้อยนิด ในการที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น”
– Baruch ได้เปรียบเปรยเอาไว้ว่า ตลาดหุ้นนั้นก็เหมือนปรอทวัดไข้ ส่วนสภาพเศรษฐกิจก็เหมือนกับอาการของไข้ โดยเขาได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตลาดหุ้นไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนวัฏจักรทางเศรษฐกิจ เพียงแต่สะท้อนถึงมัน (สภาวะทางเศรษฐกิจ) และความเชื่อเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจต่างๆของเหล่านักเก็งกำไร-นักลงทุน
– เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถที่จะขายได้ที่จุดสูงสุดและซื้อได้ที่จุดต่ำสุด โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “จงอย่าพยายามาที่จะซื้อหุ้นให้ได้ ณ จุดที่ต่ำที่สุด หรือพยายามที่จะขายให้ได้ ณ จุดที่สูงที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถที่จะทำมันได้ยกเว้นคนโกหก”
– “มันยากกว่ามากในการที่จะขายหุ้นให้ถูกจังหวะ มากกว่าตอนที่เราจะซื้อมัน” เนื่องจากเหตุผลด้านอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น หากว่าหุ้นได้วิ่งขึ้นไป นักลงทุนส่วนใหญ่ก็อาจที่จะไม่ขายมัน เนื่องจากพวกเขาต้องการกำไรที่มากกว่านั้น และนั่นก็เป็นผลมาจากความโลภที่มากเกินไป และหากว่าหุ้นได้ตกลงไป พวกเขาส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ขายมันเช่นกัน โดยตั้งความหวังไว้ว่าอย่างน้อยก็ขอให้พวกเขาได้ขาย ณ ราคาที่ไม่เกิดการขาดทุน ซึ่งมันเป็นความหวังที่ช่างขัดกับความคาดหวังเหลือเกิน”
Baruch จะฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงจากกับดักอารมณ์เหล่านี้ โดยการพยายามตระหนักถึงข้อผิดพลาดให้ได้อย่างรวดเร็ว และแก้ไขมันอย่างทันท่วงที
– Baruch เชื่อว่าคุณต้องกล้าที่จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของคุณเองโดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “จงอย่าโยนความผิดพลาดและความล้มเหลวของคุณให้กับผู้อื่น” นอกจากนี้ เขายังยอมรับถึงการขาดทุนและการตัดสินใจที่ผิดพลาดส่วนใหญ่ของเขาเอง และให้เวลากับตนเองเพื่อทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเขากล่าวไว้ว่า “ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวใดๆที่ผมได้รู้, ไม่ว่าจะเป็นผิดพลาดใดๆที่ผมได้กระทำไปและไม่ว่าจะเป็นความโง่เขาใดๆ ซึ่งผมเคยได้พบเจอทั้งในชีวิตส่วนตัวและสาธารณะนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากการกระทำโดยไร้การไตร่ตรองให้ดีทั้งสิ้น”
– มันเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะ “กระทำตามสิ่งที่ตลาดกำลังทำอยู่ในขณะนั้น แทนที่จะกระทำตามสิ่งใดๆที่ใครบางคนคิดเอาเองว่าตลาดควรจะทำเช่นไร” และเขายังได้กล่าวไว้ว่า “ทุกๆคนมีสิทธิที่จะคิดและมีความเห็นเป็นของตนเอง แต่ไม่มีสิทธิที่จะปฎิเสธต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น”
– การเข้าใจถึงอคติและจุดอ่อนของตัวเราเองคือสิ่งที่สำคัญ เขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “สมองของคุณไม่อาจที่จะรับใช้คุณได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิผล จนกว่าที่คุณจะรู้จักกับตัวของคุณเอง และจงรู้จักกับความผิดหวัง, ความหลงไหลและความลำเอียงของคุณ เพื่อที่คุณจะสามารถแยกแยะมันออกจาสิ่งที่คุณเห็นได้”
– Baruch นั้นได้รับการยอมรับและความเคารพเป็นอย่างสูง แต่เขาก็ยังคงรู้จักที่จะถ่อมตนและเข้าใจถึงความอันตรายของตลาดหุ้นอยู่เสมอ เขามักที่จะกล่าวอยู่เสมอว่า “หน้าที่หลักของตลาดหุ้น คือการพยายามที่จะหลอกลวงทุกๆคนเท่าที่จะเป็นไปได้”
– การถอยออกจากตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เขาเป็นคนที่หยุดพักจากตลาดหุ้นหลายต่อหลายครั้ง และใช้ช่วงเวลานั้นในการที่จะทบทวนการซื้อขายของเขา เนื่องจากสำหรับเขาแล้ว การถอยออกมาจากตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เนื่องจากมันคือสิ่งที่จะช่วยให้จิตใจของเขาสงบลง และเพิ่งสมาธิไปที่การทวบทวนสิ่งต่างๆและเพิ่มพูนความสามารถของเขา เขามักที่จะอุทิศความพยายามและเวลาหลายชั่วโมงเพื่อที่จะพิจารณาการซื้อขายที่ผ่านมาของเขา เพื่อหาเหตุผลว่าเหตุใดเขาจึงเกิดการขาดทุนขึ้น
แมงเม่าคลับ.คอม หนังสือหุ้นน่าอ่าน, วิธีการเล่นหุ้น, การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค, จิตวิทยาการลงทุน และการบริหารเงินทุน Money Management