บทสัมภาษณ์เซียนหุ้น Nicholas Darvas : The only interview with Nicholas Darvas in the world (1)
ห่างหายไปนานกับการอัพเดทบทความ จนสนิมเริ่มจะเกาะบล็อกแล้ว อิอิ วันนี้เลยถือโอกาสเอาบทสัมภาษณ์เซียนหุ้นอย่าง Nicholas Darvas ซึ่งได้เคยให้สัมภาษณ์และบันทึกเอาไว้เพียงครั้งเดียวในโลก ตั้งแต่ที่เขาเริ่มโด่งดัง และกลายเป็นต้นแบบวิธีการเล่นหุ้นรวมถึงแรงบรรดาลใจ ของนักเก็งกำไรทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้มาให้อ่านกัน ทั้งหมดมี 3 ตอนครับ จะทยอยลงเอาไว้นะครับ
Interviwer: สวัสดีครับคุณ Nic (Nicholas Darvas) ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พบกับคุณอย่างไกล้ชิดอย่างนี้ ขอบคุณสำหรับการตอบรับการขอสัมภาษณ์ครั้งนี้ ตามสบายนะครับคุณ Nic
Nicholas Darvas: ผมต้องขอบคุณเช่นกัน ที่ได้ติดต่อเข้ามาหาผม และผมยินดีเสมอที่จะสนทนาเกี่ยวกับหุ้นและตลาดหุ้นครับ
I: Nic คุณจะว่าอะไรไหม หากผมจะขอตรงเข้าสู่เรื่องของตลาดหุ้นเลย? คือผมอยากจะรู้ว่าคุณคิด หรือมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับตลาด จนผมแทบจะทนไม่ไหวแล้วล่ะครับ เพราะอันที่จริงแล้ว ผมรอคอยเวลานี้มานานเป็นปีๆแล้วล่ะครับ
Nic: แน่นอนสิครับ.. ผมมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อเหตุนี้แหละ!
I: โอเคครับ หลังจากที่คุณประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นช่วงปี 1950 และหลังจากที่คุณได้ตีพิมพ์หนังสือ “How I Made Million In The Stock Market” ออกมานั้น มีอะไรเปลี่ยนไปในชีวิตของคุณบ้างไหม?
Nic: ผมคงต้องบอกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของชีวิตจริงๆครับ เงินของผมเติบโตจากเพียง 25,000 ดอลลาร์ จนกลายเป็นเงินหลายล้านเหรียญภายในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น และผมยังอดประหลาดใจไม่ได้เลย ที่เรื่องของผมจะถูกตีพิมพ์อยู่ในนิตยสาร Time Magazine ในปี 1959 เพราะผมไม่เคยคิดเลย ว่าจะมีคนสนใจในเรื่องของนักเก็งกำไรอิสระอย่างผม หลังจากนั้น ผมยังต้องประหลาดใจกับยอดขายหนังสือของผม ที่ขายดีจนยอดขายนั้นมากเกินกว่า 400,000 เล่ม ในปีแรกที่มันถูกตีพิมพ์ออกไป
แน่นอนว่า ผมรวยขึ้นเป็นอย่างมาก มากกว่าที่ผมจะเคยคิดฝันในปี 1960 เสียอีก แต่อย่างไรซะ ชีวิตประจำวันของผมก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยครับ มันยังคงเป็นเช่นเดิม ผมยังคงเดินสายแสดงการเต้นและลงทุนควบคู่กันไป หรือไม่ผมก็อาจจะมีเงินทองมากกว่าเดิมในการที่ซื้อที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จากความสำเร็จของผม ซึ่งผมภูมิใจกับมันมาก
I: ผมดีใจที่ได้ยินเช่นนั้นนะครับ ผมรู้สึกถึงอารมณ์ของคุณได้เป็นอย่างดีทีเดียว และคุณก็ดูเป็นคนที่ค่อนข้างจะถ่อมตัวมากเลยทีเดียว.. ผมชักสงสัยแล้วสิว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ด้วยทัศนคติเช่นนี้ของคุณ มันจึงช่วยให้คุณสามารถประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี?
Nic: บางทีผมคงจะไม่ใช่คนที่ควรตอบคำถามนี้นะครับ :) ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะ ผมไม่เคยรู้สึกแย่จนเกินไปกับการขาดทุนของผมก็เป็นได้ มันไม่เคยรบกวนจิตใจของผมเลย ถ้าผมจะต้องอยู่เฉยๆห่างจากตลาดสักพัก รวมถึงระบบการลงทุนของผม ซึ่งช่วยบอกให้ผมรู้ว่า เมื่อไหร่ที่ผมควรจะต้องขายหุ้นของผมออกไป โดยมันทำให้ผมไม่ต้องรู้สึกตื่นเต้นกับกำไรที่มีจนมากเกินไป หรือลังเลในการที่จะขายมันออกไปเลยก็ได้
เมื่อมองกลับไปแล้ว ผมค่อนข้างที่จะประหลาดใจเช่นกัน กับการที่ผมสามารถจะทำให้เงินเพียง 25,000 ดอลลาร์ กลายเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์ได้โดยที่จิตใจของผมนั้นสงบนิ่งเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมทำลงไปจริงๆนั่นแหละ และหลังจากที่ผมประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นเป็นอย่างมากในช่วงปลายๆค.ศ. 1950 ผมได้ทำการโยกย้ายกำไรจากตลาดหุ้น สู่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามันคงจะไม่ใช่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ หากว่าผมไม่ได้ค้นพบกับสิ่งที่มีค่ามากๆบางอย่าง หลังจากนั้น ผมก็รู้สึกว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้อยู่ตลอดเวลา และผมพบกับความจริงที่สำคัญอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ หากว่าผมทำตามระบบของผม ผมจะสามารถทำกำไรได้ แต่เมื่อไหร่ที่ผมแหกระบบขึ้นมา ผมจะเริ่มขาดทุน และนั่นคือความท้าทายสำหรับผม ในการที่จะทำตามระบบอย่างดีที่สุดนั่นเอง
I: นั่นแปลว่าคุณยอมรับ ว่าคุณยังคงทำสิ่งที่ผิดพลาดในตลาดหุ้นอยู่เช่นเดิมงั้นหรือ?
Nic: แน่นอนครับ มันยากมากที่คุณจะสามารถทำตามระบบ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นระบบที่สุดยอดมากๆของคุณก็ตาม ในบางครั้งผมก็วอกแวกจากมันบ้าง ผมแหกกฏต่างๆ และขาดทุนไป แต่มันก็น้อยลงเรื่อยๆในทุกวันนี้
I: อะไรคือคำถามที่คุณมักจะได้รับบ่อยที่สุด เมื่อนักเล่นหุ้นได้พบเจอกับคุณ และรู้ว่าคุณคือ Nicholas Darvas?
Nic: ก็อย่างที่คุณรู้ พวกเขามักจะถามว่า “ผมจะขอลายเซนคุณได้ไหม?” และ “ผมขอยืมเงินคุณหน่อยจะได้ไหม?”
I: ฮาฮา จริงหรือครับ?
Nic: ไม่จริงหรอกครับ ผมล้อเล่นน่ะ! อืม.. จริงๆแล้ว ผมคิดว่าคำถามที่ผมมักพบบ่อยนั้น ผมคิดว่ามันน่าจะเป็น..
1) ตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงไปรึยัง?
2) คุณจะสอนผมว่าคุณเล่นหุ้นยังไงได้ไหม?
I: โอเค Nic แล้วคุณตอบมันว่าอย่างไรบ้างล่ะ?
Nic: แน่นอน สำหรับคำถามแรกที่ว่า “ตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่?” นั้น หากสรุปสั้นๆก็คือ “ไม่” ครับ คุณต้องเข้าใจว่าจริงๆแล้วตลาดหุ้นก็คือ สิ่งที่สะท้อนถึงอารมณ์ของนักลงทุน ซึ่งถูกแสดงออกมาในรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นนั่นเอง ทุกคนควรที่จะต้องจำสิ่งนี้ไว้ให้ขึ้นใจ มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นเหตุผลหรือตรรกะ มันไม่ใช่ผลของการดำเนินงานของบริษัท มันไม่เกี่ยวกับหลักการทางคณิตศาสตร์ แต่มันคืออารมณ์ของมนุษย์! และเมื่อไหร่ที่เหตุผลเกิดขึ้นมาพร้อมกับอารมณ์ล่ะก็ สิ่งที่จะมีอิทธิผลมากกว่าเสมอก็คือ “อารมณ์” นั่นเอง แนวทางที่ผมใช้ในการเล่นหุ้นจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วงค.ศ. 1950 นั้น ก็ยังเหมือนกับวิธีการที่ Livermore และ Barauech เคยใช้อยู่เช่นเดิม และผมก็ทำซ้ำๆอยู่เช่นเคยในช่วงค.ศ. 1960 และ 1970 และผมก็มั่นใจว่า มันยังคงจะเป็นแนวทางที่ผมจะใช้มันอยู่ในปี 2000 ครับ ซึ่งแก่นแท้ของมันก็คือ การขี่ไปบนคลื่นอารมณ์ลูกใหญ่ ให้ถึงจุดสุดยอดของมัน กำไรที่มากมายมหาศาลนั้นมาจากการเคลื่อนไหวเหล่านี้ แน่นอนว่ามันอาจดูบ้าบอ แต่ก็เพราะว่าความเป็นมนุษย์ของเรานี่แหละครับ
แต่ผมก็ต้องยอมรับว่า ถึงแม้แก่นแท้ของมันจะเหมือนเดิม แต่รายละเอียดหรือวิธีการของมันนั้นก็อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย เนื่องจากเมื่อนักเล่นหุ้นหลายๆคนเริ่มที่จะใช้สัญญาณการซื้อ-ขายในรูปแบบเดียวกันมากขึ้น มันก็ย่อมง่ายสำหรับพวก Floor Trader ที่จะสังเกตุ และใช้ประโยชน์จากมัน ผมต้องบอกว่า สัญญาณการเข้าซื้อในช่วงปีค.ศ. 1950 ของผม ในขณะที่ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะกระทิงนั้น มันแตกต่างจากสัญญาณที่ผมกำลังใช้ในการเล่นหุ้นในช่วงปีค.ศ. 1970 นี้เล็กน้อยครับ แต่คุณก็สามารถที่จะรู้ได้อย่างง่ายดายเช่นกันว่า เมื่อไหร่ที่สิ่งต่างๆเริ่มที่จะใช้ไม่ได้ และเลือกใช้ในสิ่งที่สามารถใช้ได้ต่อไป
สรุปง่ายๆก็คือ แก่นแท้ของมันจะยังคงเป็นเช่นเดิมอยู่ตลอดไป แต่วิธีการหรือรายละเอียดปลีกย่อยนั้น ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา
I: แล้วสำหรับคำถามข้อที่สองที่ว่า “คุณจะสอนผมว่าคุณเล่นหุ้นยังไงได้ไหม?” ล่ะครับ?
Nic: ผมคงต้องตอบว่า “ไม่” ครับ เพราะผมไม่ได้มีอาชีพเป็นครู และมันก็ไม่ใช่ความไฝ่ฝันของผมในการที่จะต้องคอยสอนให้ทุกๆคน สามารถที่จะมีกำไรจากการเล่นหุ้นได้ แต่ผมอยากจะบอกคุณอย่างหนึ่งว่า หากคุณต้องการมันจริงๆล่ะก็ หนังสือทั้ง 3 เล่มของผม ได้ใส่รายละเอียดทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับคุณ ในการที่จะเล่นหุ้นในสไตล์ของผมเอาไว้แล้วครับ และนั่นคือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับคุณ ในการที่คุณจะใช้วิธีการของผม แน่นอนว่า มันคงต้องใช้เวลาและความทุ่มเทเป็นอย่างมาก ในการที่คุณจะสามารถทำความเข้าใจ และประยุกต์ใช้แนวทางหรือวิธีการเล่นหุ้นของผม แต่มันก็ถูกเขียนไว้ทั้งหมดในหนังสือแล้วครับ
วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อให้พรุ่งนี้ครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะครับ