จิตวิทยาการลงทุน-เล่นหุ้น Trading Psychology – First Business TV (Part:2)
วันนี้ผมเอาวิดีโอคลิปหุ้น เรื่องจิตวิทยาการลงทุน จาก First Business TV ตอนที่ 2 มาลงต่อให้จบนะครับ จะได้ขึ้นเรื่องใหม่กัน อิอิ
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=7QLmhfln9mg[/youtube]
[บทแปล]
ในวันนี้เรามาคุยกันในเรื่องของ “จิตวิทยาการลงทุน” กันต่อค่ะ
เราทุกคนนั้นรู้ดีว่า ในการที่จะประสบความสำเร็จ ในการลงทุนหรือเก็งกำไรนั้น
คุณจะต้องสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เป็นอย่างดี
และ.. มีวินัยต่อระบบการลงทุนของคุณ
อย่างไรก็ตาม แนวคิดทั้งสองอย่างนี้ ก็ดูช่างยากเย็นเหลือเกินที่จะเข้าใจมันได้
สำหรับผู้ที่พึ่งจะเริ่มต้น เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นค่ะ
ดังนั้น เราจึงมีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคุณ
จากนักเก็งกำไรสมัครเล่น ไปสู่ทัศนคติของนักเก็งกำไรมืออาชีพค่ะ!
คุณคงต้องยอมรับความจริงว่า
การทำกำไรจากตลาดหุ้นนั้นไม่ง่ายเลย
แต่มันก็สามารถเป็นไปได้ หากว่าคุณพยายามฝึกฝนอย่างหนัก
เช่นเดียวกับเหล่านักเก็งกำไรมืออาชีพค่ะ
และกฏข้อแรกของพวกเขาก็คือ..
อย่าเชื่อทุกๆคนที่เดินเข้ามาพูดว่า
คุณสามารถที่จะทำกำไรก้อนใหญ่ได้ ภายในระยะเวลาสั้นๆค่ะ!
คุณต้องทุ่มเทให้กับมัน..
ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นใคร หรือมีเงินมากแค่ไหน
ซึ่งความจริงแล้ว ยิ่งคุณมีเงินมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายขึ้นเท่านั้น!
ดังนั้น มันจะดีกว่าหากคุณคิดว่า..
“ผมคงต้องทุ่มเทเวลากับมันสักพักใหญ่
และคงต้องใช้เวลาเป็นหลายๆปี กว่าที่จะทำมันได้ดีจริงๆ”
มันก็เหมือนกับทุกๆอย่างในชีวิตคุณแหละครับ!
นักเก็งกำไรมืออาชีพอย่าง Larry Levin ได้บอกกับเราว่า
เขาต้องใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าที่เขาจะสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
และเขายังได้บอกกับเราอีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณควรจะต้องรู้ และเข้าใจก็คือ..
“คูณไม่มีวันรู้ได้อย่างแน่นอนว่า ตลาดจะเป็นอย่างไร”
ดังนั้น จงอย่ายึดติดกับ “ความเห็น” ของคุณค่ะ
ผมจะไม่พยายามคาดการณ์ว่า ตลาดจะวิ่งไปทางไหน
แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมทำไม่ได้
ด้วยประสบการณ์ต่างๆของผมนั้น..
แน่นอนว่า ผมต้องพยายามที่จะอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลา
แต่ผมก็ไม่พยายามที่จะคาดหวัง ให้สิ่งต่างๆเป็นไปอย่างที่คิดตลอดเวลา
หรืิอสิ่งที่ผมคิดจะต้อง “ถูก” อยู่เสมอ
ซึ่งที่จริงแล้ว ผมมักที่จะคิดในเชิงที่ว่า..
ผมจะทำอย่างไร เมื่อผมคิดผิด!
และนี่ก็คือเคล็ดลับข้อที่สองค่ะ นั่นก็คือ
นักเก็งกำไรมืออาชีพ จะมีจุดตัดขาดทุนอยู่เสมอค่ะ
และคุณก็ควรที่จะกำหนดมันเอาไว้ ตั้งแต่เริ่มเข้าซื้อค่ะ
ผมอยากจะบอกว่า “จุดตัดขาดทุน” นั้น
เปรียบเสมือน “เพื่อน” ของคุณครับ
แต่สำหรับนักเก็งกำไรมือใหม่หลายๆคนนั้น
พวกเขามักที่จะไม่ยอมใช้มัน
แน่นอน.. พวกเขามักจะคิดว่า “ผมจะตัดขาดทุน”
แต่เมื่อตลาดวิ่งสวนทาง และทำให้พวกเขาขาดทุนขึ้นมา
คุณรู้ไหมว่าเมื่อตลาดวิ่งสวนทางกับคุณ และทำให้เงินทุนของคุณลดลงนั้น
มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ในการที่คุณจะตัดสินใจ ทำอะไรบางอย่างเลยทีเดียว
และสำหรับนักเก็งกำไรมือใหม่นั้น..
ซึ่งเป็นคนที่กำลังพยายาม จะเก็บประสบการณ์ในการเล่นหุ้น
มันอาจจะเป็นสิ่งที่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ
และนี่คือเหตุผลว่าทำไม คุณจึงต้องการแผนการเล่นที่ชัดเจนค่ะ!
จงเขียนกฏในการเข้าซื้อ-ขายของคุณ
และทำตาม “กฏ” ของคุณอยู่ตลอดเวลาค่ะ
ในโลกของการเก็งกำไรนั้น คุณจะต้องมีระบบของคุณเอง
คุณจะต้องรู้ว่า คุณต้องการที่จะ..
สุญเสียเงินคุณมากเท่าไหร่ในแต่ละครั้ง
เช่น “ฉันจะยอมขาดทุนแค่ X ดอลลาร์ ในการเล่นแต่ละครั้งเท่านั้น”
และนี่คือเคล็ดลับเล็กๆน้อย ซึ่งจะช่วยให้คุณอยู่รอดในเกมนี้ได้
ในขณะที่คุณกำลังพยายามที่จะเรียนรู้ในตลาดหุ้นค่ะ
จงเล่นด้วยเงินทีละน้อย!
เช่น แค่ 1-2 สัญญาหากคุณเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า
หรือซื้อหุ้นไม่เกินครั้งละ 100 หุ้นเท่านั้นค่ะ
ความจริงแล้วในบางครั้ง การเริ่มต้นเก็งกำไรด้วยเงินจำนวนมากนั้น
อาจะทำให้..
คุณยิ่งหมดตัวเร็วขึ้นก็ได้ครับ
เนื่องจาก เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณมีเงินมากๆนั้น อาจทำให้คุณคิดว่า..
คุณสามารถที่จะเสี่ยงได้มากขึ้นนั่นเองครับ
เราได้ทำการสอบถามจากศาสตราจารย์ Werner Debondt
ซึ่งเป็นผู้ที่บุกเบิกในสาขาวิชา “Behavior Finance”
และเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย DePaul
ซึ่งตั้งอยู่ในชิคาโกนี่เองค่ะ
เขาได้บอกกับเราว่า ปัญหาหลักๆสำหรับนักเก็งกำไร และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็คือ
พวกเขาไม่ได้กระจายความเสี่ยงอย่างเพียงพอนั่นเอง
เขากล่าวว่า นักลงทุนทั่วๆไปนั้น มักทำผิดพลาด
ด้วยการถือหุ้นประมาณ 2 ตัว ด้วยเงินที่เท่าๆกัน
หรือคิดเป็นตัวละประมาณ 50% ของเงินทุนเลยทีเดียว
และเขายังได้บอกเราอีกว่า วิธีการที่จะเอาชนะอุปสรรค จากอารมณ์ของเราได้นั้น
คือการมีระบบการลงทุนที่ดี และ “วินัย” ที่จะทำตามระบบได้เป็นอย่างดีค่ะ